คำอธิบาย
แบตเตอรี่ NIKO NKC115 (12V 100Ah)
แบตเตอรี่ NIKO รุ่น NKC115 เป็นแบตเตอรี่ประเภท เติมน้ำกรด (Conventional Lead-Acid Battery) ซึ่งต้องหมั่นดูแลระดับน้ำกลั่นทุก 2-3 เดือน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน

📌 ข้อมูลแบตเตอรี่
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
ยี่ห้อ (Brand) | NIKO BATTERY |
รุ่น (Model) | NKC115 |
ประเภท | เติมน้ำกรด (Flooded Lead-Acid) |
แรงดันไฟฟ้า (Voltage) | 12V |
ความจุ (Ah) | 100 Ah |
CCA (Cold Cranking Amps) | 490 A |
ขนาด (กxยxส) (mm) | 406 x 174 x 210 |
ตำแหน่งขั้วแบตฯ | ขั้วธรรมดา |
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย | 1.5 – 3 ปี (ขึ้นอยู่กับการดูแล) |
การรับประกัน | 6 – 12 เดือน |
🚜 เหมาะสำหรับใช้งานกับอะไรบ้าง?
แบตเตอรี่ NIKO NKC115 ออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น ✅ รถบรรทุก (Trucks, Trailers, Buses) ✅ เครื่องปั่นไฟ (Generators) ✅ เจนเนอเรเตอร์ (Industrial & Home Backup Power Systems) ✅ ปั๊มดับเพลิง (Fire Pump Systems) ✅ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Vehicles) ✅ เครื่องจักรกลหนัก (Construction & Agricultural Equipment)🔹 คุณสมบัติเด่นของแบตเตอรี่ NIKO รุ่น NKC115
คุณสมบัติ | รายละเอียด |
---|---|
⚡ ไฟแรง จ่ายกระแสไฟเสถียร | รองรับโหลดสูง ให้พลังงานต่อเนื่อง |
🔋 ประเภทเติมน้ำกรด | ต้องเติมน้ำกลั่นเป็นระยะ แต่มีอายุการใช้งานยาวนาน |
🔥 ทนต่อการใช้งานหนัก | เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น รถบรรทุกและเครื่องปั่นไฟ |
💦 โครงสร้างพิเศษ ลดการระเหยของน้ำกลั่น | ลดการสูญเสียน้ำกรด ทำให้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อย |
⚙️ แผ่นธาตุเสริมความแข็งแรง | ลดปัญหาการสึกกร่อนของแผ่นธาตุในระยะยาว |
🛠️ วิธีดูแลแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น
✅ 1. ตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ
🔹 ควรตรวจเช็กทุก 1-2 เดือน และเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (ไม่ให้ต่ำกว่าขีด MIN และไม่เกินขีด MAX)✅ 2. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมด
🔹 ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่ ไฟหมดจนเกลี้ยง เพราะอาจทำให้เซลล์แบตเตอรี่เสียหายได้✅ 3. ใช้งานเครื่องปั่นไฟหรือเครื่องจักรเป็นประจำ
🔹 หากแบตเตอรี่นี้ใช้กับ เครื่องปั่นไฟหรือปั๊มดับเพลิง ควรเดินเครื่องเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่✅ 4. หมั่นทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่
🔹 ใช้แปรงทองเหลืองขัดขั้วแบตเตอรี่เป็นระยะ เพื่อป้องกัน ขี้เกลือและสนิม✅ 5. ตรวจเช็กไดชาร์จและระบบไฟฟ้า
🔹 หากแบตเตอรี่หมดเร็วผิดปกติ ควรเช็กไดชาร์จว่าทำงานปกติหรือไม่✅ 6. ขับรถหรือใช้งานอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่เป็นระยะ
🔹 ไม่ควรปล่อยให้รถหรือเครื่องยนต์จอดนานเกิน 2-3 สัปดาห์ โดยไม่ได้ใช้งาน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว🔍 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม
🚨 สตาร์ทติดยาก – ต้องบิดกุญแจหลายครั้งหรือหมุนเครื่องยนต์ช้า 🚨 ไฟหน้ารถหรือไฟเครื่องปั่นไฟอ่อนลง – สว่างน้อยกว่าปกติ 🚨 มีเสียงคลิกเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ – แสดงว่าไฟในแบตเตอรี่ไม่พอ 🚨 แบตเตอรี่บวม – เกิดจากความร้อนสะสมหรือชาร์จไฟเกิน 🚨 มีคราบขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่ – อาจเกิดจากการรั่วของน้ำกรด หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรนำแบตเตอรี่ไปตรวจเช็กหรือเปลี่ยนใหม่📞ช่องทางโซเชียลมีเดียของเรา
🚗 บริการจัดส่งและติดตั้ง 🔋 มีบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่นอกสถานที่ถึงบ้านคุณ